top of page

ดวงตา.. คือ หน้าต่างของหัวใจ มาฟื้นฟูแก้วตาดวงใจ ด้วยธรรมชาติบำบัดกันเถอะ


วิทยากร: อาจารย์อุราภา วัฒนะโชติ ผู้ก่อตั้ง และบุกเบิก ศูนย์ฟื้นฟูดวงตาวิถีธรรมชาติ หรือ Natural Joy Vision at DS Clinic


“ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินและตีความให้คำนิยามได้ต่าง ๆ นานา ซึ่งในความเป็นจริงคนเราสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึก โดยสื่อความหมายของแต่ละคนออกมาผ่าน “ดวงตา” เป็นสิ่งแรก ด้วยเหตุนี้ เรื่องการดูแลสุขภาพของดวงตาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่ต้องใส่ใจ แต่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องด้วย ปัจจุบันมีสิ่งเร้าจากปัจจัยภายนอกมากมาย เช่น แสงจากคอมพิวเตอร์ หรือแสงจากหน้าจอโทรศัพท์ ส่งผลให้สุขภาพตาเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

อาจารย์อุราภา วัฒนะโชติ ผู้ก่อตั้ง และบุกเบิก ศูนย์ฟื้นฟูดวงตาวิถีธรรมชาติ หรือ Natural Joy Vision at DS Clinic แห่งเดียวในประเทศไทยที่ทำการฟื้นฟูดวงตาด้วยวิถีธีรรมชาติ จึงได้นำเอาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ “ธรรมชาติบำบัด เพื่อฟื้นฟูดวงตา” ด้วยวิธีการบริหารสายตาด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเป็นศาสตร์และวิธีการบำบัดที่ไม่ต้องพึ่งพา หรือใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ทุกคนสามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้สูงวัย รวมถึงกลุ่มคนทั่วไปที่สนใจ สามารถนำไปปรับใช้ และถ่ายทอดเป็นความรู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง คนในครอบครัว และต่อผู้อื่นได้ในอนาคต ซึ่งผู้ที่ฟื้นฟูดวงตาด้วยวิธีธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จะกลายเป็นผู้ที่กลับมามีสุขภาพตาที่ดียิ่งขึ้นได้ในที่สุด แบบไม่ต้องง้อคอนแทคเลนส์ หรือทำเลสิกอีกต่อไป…


และหากจะพูดถึงเรื่องความเสื่อมของดวงตา แท้จริงแล้วไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น… แต่สามารถเกิดได้กับทุกช่วงวัย และขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การทำงานของแต่ละคน เรื่องของพันธุกรรม สภาพแวดล้อม ตลอดจนการใช้ยาสเตียรอยด์ หรือยารักษาสิว ก็เป็นปัจจัยเสี่ยง ที่สามารถทำให้เกิดความเสื่อมของดวงตาได้เช่นกัน เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้กับสมองมากที่สุด จึงมีการทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่วนประกอบที่ช่วยในการมองเห็นนี้ ก็ได้แก่ แก้วตา ม่านตา จอตา ที่จะทำให้เรามองเห็นวัตถุเป็นทรงหัวกลับก่อนที่จะแปลงเป็นข้อมูลภาพแบบปกติเมื่อกลับเข้าสู่สมองอีกที


โดยทั่วไปแล้ว... ความผิดปกติทางสายตา เกิดขึ้นได้จากองค์ประกอบ 4 ประเภทคือ สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง และสายตาสูงวัย (เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เลนส์ตาจะเริ่มเสื่อม และส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้ไม่สามารถมองตัวหนังสือตัวเล็ก ๆ ได้ชัดเจน) หรืออาจเป็นเพราะพฤติกรรมการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การสูบบุหรี่ ได้รับวิตามิน หรือสารอาหารบางชนิดที่ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เกิด “ความดันตาสูง” ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาอย่าง ต้อหิน ต้อกระจก ม่านตาอักเสบ ภาวะตาแห้ง ฯลฯ ได้ด้วยเช่นกัน


ซึ่งการตรวจรักษา หรือทำการวินิจฉัยความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา สามารถวัดได้จาก...

ค่าความดันตา หากใช้เครื่องมือทางการแพทย์วัด ซึ่งค่ามาตรฐานอยู่ระหว่าง 9 และไม่ควรเกิน 15 ซึ่งหากความดันตาอยู่ที่ 18 ถือว่าเริ่มมีความเสี่ยง และหากสูงถึง 20-24 ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นความดันตาสูง และโรคเกี่ยวกับตาที่อาจจะตามมาได้


ซึ่งการดูแลรักษาและป้องกันในเบื้องต้น ทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สายตา เช่น การอ่านหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ การพักสายตา ไม่ใช้งานติดต่อกันนาน ๆ หรือการหลีกเลี่ยงการมองวัตถุที่มีสีขาวหรือแสงสะท้อนที่มากเกินไป การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตา โดยเฉพาะกลุ่มวิตามินซี ที่ช่วยบำรุงสายตา และตรวจวัดสายตา หรือพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง


ด้านการฟื้นฟูดวงตา ด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด ที่จะช่วยให้ตาที่เสื่อมไปแล้ว สามารถกลับมาทำงานได้ดีขึ้นก็มีหลากหลายวิธี เช่น การฟื้นฟูดวงตาด้วยวิธี Natural Vision , Eye Yoga , Eye Exercise , Eye Training , Eye Rehab หรือ ศาสตร์การฟื้นฟูดวงตาโดยวิถีธรรมชาติ

ส่วนวิธีการสำหรับการฟื้นฟูดวงตา ด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด ก็สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้...

  • แบบฝึกหัดที่ 1: ล้างตาทุกวัน หรือเรียกว่า Eye Bath อาบน้ำให้ดวงตา วิธีปฏิบัติ สำหรับคนที่สายตาสั้น โดยใช้แก้วหรือวัสดุสะอาด เติมน้ำเย็นที่สะอาด แล้วลืมตาในน้ำ กลอกตาไปมา ทำให้เส้นเลือดหดตัว ดวงตาสดชื่น ในส่วนคนที่สายตายาวหรือเอียง โดยใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเกลือล้าง ซึ่งทำได้ทุกวัน โดยเฉพาะในตอนเช้า ที่จะทำให้การไหลเวียนเลือดในดวงตาดีขึ้นและสดชื่นผ่อนคลาย

  • แบบฝึกหัดที่ 2: มือกำลูกบอล ชูแขนที่มือกำลูกบอลแล้วค่อย ๆ เหวี่ยงไปด้านข้าง พร้อมกับใช้สายตากลอกมองตาม เริ่มต้นทำข้างละ 10 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มจำนวนครั้ง จากนั้นเปลี่ยนข้างและสลับมือ ซึ่งจะช่วยปรับสายตาให้ดียิ่งขึ้น

  • แบบฝึกหัดที่ 3: นวดหลังศีรษะหรือคลึงบริเวณท้ายทอย หรือนวดเบ้าตาและหัวคิ้ว หรือใช้นิ้วกลางกดบริเวณกึ่งกลางตาหรือปีกจมูก ออกแรงเบา ๆ โดยจำนวนครั้งตามความเหมาะสม ทำซ้ำวนไป ช่วยกระตุ้นสมอง เส้นเลือด เส้นประสาทให้ทำงานดียิ่งขึ้น

  • แบบฝึกหัดที่ 4: CAT, OWL abd Hi-Square คือ การใช้มือจับปากกาเป็นจุดโฟกัสยื่นมือไปข้างหน้า โดยมีอุปกรณ์ คือ กระดาษที่มีรูปวาด 2 รูป เพื่อทดสอบการมอง

  • แบบฝึกหัดที่ 5: โอม! วิธีปฏิบัติโดยใช้รูปภาพที่มีเลข 3, พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และ ดวงอาทิตย์ ซึ่งมีชุดสีเป็นแม่สี คือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน ซึ่งจอตาของคนเราจะมองเห็น 3 สีนี้ เพื่อทดสอบจอประสาทตา (Retina) ซึ่งอยู่ชั้นในสุดของดวงตา และยังเป็นการ ฝึกภาษาสมอง ทำให้จอตาสดชื่นขึ้น

  • แบบฝึกหัดที่ 6: รูปภาพหัวกลับ (Inner Image) วิธีปฏิบัติโดยใช้รูปภาพสีดำลักษณะเหมือนขดหอย รูปภาพหัวใจสีแดง และรูปภาพหัวใจสีเขียว โดยให้ผู้เข้าอบรมจ้องมองแต่ละภาพจนครบแล้วหลับตาลง จากนั้นให้จินตนาการวาดภาพ ซึ่งผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่จะมองเห็นเป็นภาพขาวดำสลับกัน โดยจะมองเห็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันเพื่อกระตุ้นจอประสาทตา ซึ่งถ้าไม่เห็นภาพขาวดำสลับกัน แปลว่าจอประสาทตาเริ่มเสื่อม ต้องเข้ารับการรักษา


ซึ่งการทำ Eye Exercise ควรต้องฝึกเป็นประจำ โดยใช้เวลาต่อครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที ซึ่งมีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่เป็นต้อหินคือ ไม่ควรล้างตา หรือใช้นิ้วกดบำบัดนั่นเอง


////////////////////////////////////////////////////

บทความ: โดย บริษัท ออลไรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ดู 0 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page