วิทยากร: อ.สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส.
“ผมชะลอความชรา…ด้วยการกินอาหาร”
จากการคาดการณ์ประชากรไทย ระบุว่าในปี พ.ศ.2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ หมายถึงจะมีประชากรผู้สูงอายุสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั้งหมด และปัญหาที่ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเจอ คือปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากความเสื่อมถอยของร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการมีอายุที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากสภาพแวดล้อม รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย และมลพิษ รอบ ๆ ตัว
แต่สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ หากเราเตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการให้ผู้สูงอายุ “รู้กิน” อย่างถูกต้อง ถูกวิธี เพื่อให้ทุกวันของผู้สูงอายุมีแต่รอยยิ้มและความสุข
ด้าน อ.สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส. เล่าว่า ทุก ๆ คนสามารถหยุดยั้งหรือชะลอความแก่ได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหารให้เป็น รู้จักออกกำลัง ควบคุมอารมณ์ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อทำทุกส่วนให้สัมพันธ์กันได้ก็จะส่งผลให้เซลล์ในร่างกายมนุษย์เราได้รับสารอาหารจากอาหาร น้ำ และออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ให้มีชีวิต เซลล์ตายช้าลง เมื่อภายในสุขภาพดีก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอกทำให้เรามีอายุร่างกายน้อยกว่าอายุจริง มีความแข็งแรง ผิวหนังเต่งตึง และเจ็บป่วยได้ยาก ในทางตรงกันข้ามหากผู้สูงอายุไม่ดูแลตัวเอง เซลล์ในร่างกายก็จะถูกสารอนุมุลอิสระเข้าโจมตี ร่างกายก็จะอ่อนแอลง ทำให้เกิดโรคและเจ็บป่วยได้ง่าย
โดยเฉพาะโรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเบาหวาน, โรคมะเร็งต่าง ๆ, โรคไตเรื้อรัง, โรคอ้วนลงพุง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุหลักสำคัญของการเกิดกลุ่มโรค NCDs คือพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิต ยิ่งโดยเฉพาะพฤติกรรมการกิน หรือที่เรียกว่า “กินไม่เป็น”
การ “กินไม่เป็น” ก็คือ พฤติกรรมการกินอาหารที่มีไขมันสูง และกินอาหารรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด และบางคนนอกจากจะไม่ดูแลเรื่องอาหารการกินแล้ว ก็ยังไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดสูง พฤติกรรม ต่าง ๆ เหล่านี้จะยิ่งไปซ้ำเติมให้เกิดโรค NCDs ง่ายขึ้น
ดังนั้นเพื่อให้ผู้สูงอายุห่างไกลโรค จึงควรกินอาหารตามสูตร 6:6:1 คือในหนึ่งวันไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา, กินน้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา และไม่ควรกินเกลือเกิน 1 ช้อนชา ไม่เพียงเท่านี้ ผู้สูงอายุยังต้องบริโภคผักผลไม้ในปริมาณที่เพียงพอหรืออย่างน้อยวันละ 400 กรัมให้ได้ เพราะผักผลไม้เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ รวมถึงป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
อ.สง่า ฝากคำแนะนำทิ้งท้ายว่า “เราปรับการกินก็เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้เป็นชีวิตที่สวยงาม…ด้วยการกินคลีนในแบบไทย คือ ‘การกินให้เป็นธรรมชาติ’ เน้นกินปลาเป็นหลัก เพราะเนื้อปลาย่อยง่าย มีไขมันดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย และในทุกมื้ออาหารควรมีผักร่วมด้วย โดยแบ่งให้สัดส่วนของอาหารเป็น 4 ส่วน คือ ผัก 2 ส่วน คาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน และโปรตีนอีก 1 ส่วน (หลัก2:1:1) รวมถึงปรุงแต่งอาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติ เน้น ต้ม นึ่ง อบ ย่าง แทนการทอด และที่สำคัญปรุงให้ใกล้เคียงกับรสชาติแบบธรรมชาติมากที่สุด”
ไม่มีคำว่าสายในการเริ่มดูแลสุขภาพตัวเอง ถึงแม้เราทุกคนจะห้ามความแก่ไม่ได้ แต่เราชะลอมันได้ด้วยการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ ควบคู่ไปกับการบริหารทั้งร่างกายและจิตใจ เพียงเท่านี้คุณก็จะเป็นผู้สูงอายุหัวใจเก๋า ที่ไม่มีวันเก่าอีกไป
////////////////////////////////////////////////////
บทความ: โดย บริษัท ออลไรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
Comments